ผู้แต่ง: นางสาวภัคจิรา ตั้งสุทธิมงคล

บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของเอกัตศึกษาเรื่อง ข้อจำกัดการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อป้องกันการทุจริตในธุรกิจธนาคารพาณิชย์ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

ด้วยประเทศไทยมีการตราพระราชบัญญัติพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ขึ้นเพื่อเป็นการปกป้องสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยกำหนดหน้าที่ให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลและผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายฉบับนี้ ซึ่งกิจกรรมของชมรมตรวจสอบและป้องกันการทุจริตในธุรกิจธนาคารพาณิชย์ (ชมรม fraud) มีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลระหว่างธนาคารพาณิชย์ ทำให้มีประเด็นปัญหาว่ากิจกรรมดังกล่าวเป็นการปฏิบัติสอดคล้องกับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ที่กำหนดห้ามมิให้ผู้ใดเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลหากไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลเว้นแต่กฎหมายจะบัญญัติยกเว้นไว้ หรือไม่

อย่างไรก็ตามการนำกฎหมายมาปรับใช้นั้นยังคงเป็นเรื่องใหม่สำหรับภาคธุรกิจ ผู้ศึกษาจึงมุ่งที่จะศึกษาแนวปฏิบัติของประเทศอังกฤษเพื่อเป็นแนวทางดังนี้

ประเทศอังกฤษมีการจัดตั้งสำนักข่าวกรองทุจริตแห่งชาติ National Fraud Intelligence Bureau (NFIB) ขึ้นเพื่อเป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่วิเคราะห์ข้อมูลการทุจริตจากองค์กรจำนวนมากในภาครัฐและเอกชนรวมถึงแหล่งอุตสาหกรรมการพาณิชย์และภาครัฐ โดยมีตำรวจลอนดอนเป็นผู้ดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (มีกฎหมายให้อำนาจในการดำเนินการ) และมีหน่วยงาน Action Fraud เป็นศูนย์รับเรื่องราวการทุจริตให้กับ NFIB 

จากการศึกษาการไหลเวียนของข้อมูลส่วนบุคคล (Data flow) ในประเทศอังกฤษ พบว่าประเทศอังกฤษมีการจัดเก็บเก็บข้อมูลการทุจริตโดยแยกเป็นรหัสตามประเภทของการทุจริตและอยู่ในฐานข้อมูลกลางขององค์กรตามภาพที่ 1 และตารางที่ 1 ซึ่งมีความแตกต่างอย่างชัดเจนกับการไหลเวียนของข้อมูลส่วนบุคคล (Data flow) ของประเทศไทยตามภาพที่ 2 และตารางที่ 2
ทั้งเรื่องสถานะทางกฎหมายของชมรม fraud ก็มีฐานะเป็นเพียงชมรมที่จัดตั้งขึ้นภายใต้สมาคมธนาคารไทย และไม่มีอำนาจหน้าที่ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลการทุจริตไปยังบุคคลอื่น อีกทั้งยังไม่มีฐานข้อมูลทุจริตกลางของชมรม จึงทำให้การดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ไม่มีมาตรฐานกลางเนื่องจากสมาชิกจะดำเนินการต่าง ๆ ทั้งการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้แนวนโยบายบริหารความเสี่ยงของแต่ละสมาชิกเอง 

ตารางที่ 1 รหัสที่ใช้บันทึกเพื่อการแยกประเภทของกิจกรรมของ NFIB

CODE DETAIL
NFIB1 Advance Fee Payments
NFIB1A 419 Advance Fee Fraud
NFIB1B Lottery Scams
NFIB1C Counterfeit Cashiers Cheques
NFIB1D Dating Scam
NFIB1E Fraud Recovery
NFIB1F Inheritance Fraud
NFIB1G Rental Fraud
NFIB1H Other Advance Fee Frauds
NFIB1J Lender Loan Fraud
NFIB2 Financial Investments
NFIB2A Share sales or Boiler Room Fraud
NFIB2B Pyramid or Ponzi Schemes
NFIB2C Prime Bank Guarantees
NFIB2D Time Shares and Holiday Club Fraud
NFIB2E Other Financial Investment
NFIB3 Consumer and Retail Fraud
NFIB3A Online Shopping and Auctions
NFIB3B Consumer Phone Fraud
NFIB3C Door to Door Sales and Bogus Tradesmen
NFIB3D Other Consumer and Retail Fraud
NFIB3E Computer Software Service Fraud
NFIB3F Ticket Fraud
NFIB3G Retail Fraud (not NFIB3A or NFIB5A)
NFIB4A Charity Fraud
NFIB4B Fraudulent Applications for Grants from Charities or Lottery Fund Organisations
NFIB5 Banking and Credit Industry Fraud
NFIIB5A Cheque, Pllastiic Card and Onlliine Bank Accounts (not PSP)
NFIIB5B Applliicatiion Fraud (exclludiing Mortgages)
NFIIB5C Mortgage Rellated Fraud
NFIIB5D Mandate Fraud
NFIIB5E Diishonestlly retaiiniing a wrongfull crediit
NFIB6A Insurance Related Fraud
NFIB6B Insurance Broker Fraud
NFIB7 Telecom Industry Fraud (Misuse of Contracts)
NFIB8A Corporate Employee Fraud
NFIIB8B Corporate Procurement Fraud
NFIIB9 Busiiness Tradiing Fraud
NFIIB10 Fallse Accountiing
NFIB11 Bankruptcy and Insolvency
NFIB12 Passport Application Fraud
NFIB13 Department of Works and Pensions (DWP) Fraud
NFIB14 Fraudulent Applications for Grants from Government Organisations
NFIB15 HM Revenue and Customs Fraud (HMRC)
NFIB16 Pension Fraud
NFIB16A Pension Fraud by Pensioners (or their Estate)
NFIB16B Pension Fraud committed on Pensioners
NFIB16C Pension Liberation Fraud
NFIB17 Other Regulatory Fraud
NFIB18 Fraud by Failing to Disclose Information
NFIB19 Abuse of Position of Trust
NFIB20A DVLA Driver Licence Application Fraud
NFIB90 Other Fraud (Not covered ellsewhere)
NFIB50 Computer Misuse Crime
NFIB50A Computer Viruses\Malware\Spyware
NFIB51A Denial of Service Attack
NFIB51B Denial of Service Attack Extortion
NFIB52A Hacking-Server
NFIB52B Hacking-Personal
NFIB52C Hacking-Social Media and E-mail
NFIB52D Computer Hacking – PBX/Dial Through
NFIB52E Hacking (Extortion)

ภาพที่ 2 การไหลเวียนของข้อมูลส่วนบุคคล (Data flow) ของประเทศไทย

ตารางที่ 2 เปรียบเทียบข้อมูลของชมรมตรวจสอบและป้องกันการทุจริตในประเทศไทย
และ National intelligence Fraud Bureau (NFIB) ประเทศอังกฤษ

หัวข้อ ประเทศไทย ประเทศอังกฤษ
สถานะชมรม/องค์กร ชมรม fraud เป็นชมรมที่จัดตั้งขึ้นและดำเนินการภายใต้สมาคมธนาคารไทย NFIB เป็นหน่วยงานของรัฐที่ดำเนินการโดยตำรวจลอนดอน
วัตถุประสงค์ เพื่อป้องกันไม่ให้ บุคคล/นิติบุคคล ที่มีความเสี่ยงทุจริตไปสร้างความเสียหายกับธุรกิจทางการเงินการธนาคาร เพื่อสืบสวนสอบสวน ป้องกัน และแจ้งข่าวการทุจริต
กลุ่มกิจกรรม ประกอบไปด้วย 3 กลุ่มกิจกรรม 1. Fraud Lending 2. Internet Cyber and Crime Fraud 3. Financial Crime and Scam Fraud ประกอบไปด้วย 57 กลุ่มกิจกรรม (รายละเอียดตามตารางที่ 1)
กิจกรรม – การสอบทานข้อมูล – การตรวจสอบข้อมูล – การแจ้งข้อมูล – การรวบรวมข้อมูล – วิเคราะห์ข้อมูล/ประมวลผล – การแจ้งข่าวการทุจริต
ฐานข้อมูล ชมรม fraud ไม่มีฐานข้อมูลกลาง มีการเก็บฐานข้อมูลกลางโดยมีการกำหนดรหัสเพื่อแยกตามประเภทการทุจริต
ฐานการประมวลผล เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย (Fraud Act 2006 / Police and Criminal Evidence Act 1984/ the Police Act 1996 / Police Reform Act 2002)
การเปิดเผยข้อมูล – ธนาคารที่เป็นสมาชิกของชมรม fraud – หน่วยงานทางการ เช่น ตำรวจ ปปส. ปปง. – บุคคล/องค์กรที่มีส่วนเกี่ยวข้องซึ่งได้รับความเสียหายจากการทุจริต – หน่วยงานทางการ/หน่วยงานกำกับดูแล
ระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูล – ข้อมูลเอกสารทำลายเมื่อครบ 10 ปี นับจากวันที่ลูกค้าปิดบัญชี – ข้อมูลในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ขึ้นอยู่กับนโยบายการบริหารความเสี่ยงของหน่วยงานงานบริหารความเสี่ยงด้านการทุจริตของแต่ละธนาคาร จัดเก็บถาวร โดยลบข้อมูลต่อเมื่อ – เสียชีวิต – มีการตรวจสอบและการกำกับดูแลอย่างเพียงพอสำหรับข้อมูลนั้น ๆ – ข้อมูลไม่เป็นปัจจุบัน – อาชญากรรมถูกยกเลิก – ตามวัตถุประสงค์อื่น ๆ ของตำรวจ – มีการลบประวัติจากระบบตำรวจแห่งชาติ

ข้อค้นพบ

จากการศึกษาพบว่า กิจกรรมการตรวจสอบและป้องกันการทุจริตของชมรมตรวจสอบและป้องกันการทุจริตในภาคธุรกิจธนาคารพาณิชย์ (ชมรม fraud) ของประเทศไทยยังมีข้อจำกัด ทำได้เพียงกิจกรรมที่จำกัดเฉพาะเป็นฐานของธนาคารเองเท่านั้น ซึ่งจำเป็นต้องมีกฎหมายรองรับให้ทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์สาธารณะได้มากขึ้น ประกอบกับชมรมตรวจสอบและป้องกันการทุจริตยังไม่มีการจัดทำประมวลแนวปฏิบัติอันอาจเป็นแนวทางที่จะก่อให้เกิดมาตรฐานกลางในการปฏิบัติงาน